วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ผลกระทบต่อสังคมปัจจุบันของแท่นพิมพ์ Gutenberg

     โยฮันเนส เจนส์ไฟลช์ ลาเดน ซูม กูเตนเบิร์ก (Johannes Gensfleisch zur Laden Zum Gutenberg) เกิดราวปี ค.ศ. 1398 ที่เมืองไมนซ์(Mainz) ประเทศเยอรมนี 
   ในวัยเด็ก กูเตนเบิร์กติดตามบิดาไปโบสถ์เพื่อดูการพิมพ์ภาพ และเห็นว่าการแกะสลักบล็อกไม้เป็นเรื่องยากส่งผลให้หนังสือมีราคาแพงและไม่ค่อยแพร่หลาย เขาจึงใฝ่ฝันอยากสร้างเครื่องที่สามารถพิมพ์หนังสือได้รวดเร็วนับแต่นั้นมา
ราว ค.ศ. 1411 ประเทศเยอรมนีเกิดเหตุจลาจล บ้านเรือนกว่าร้อยหลังคาเรือนถูกยึด กูเตนเบิร์กพลัดถิ่นไปอยู่ที่เมืองอัลทา (Alta Villa) เข้าเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเออเฟิร์ต (The University of Erfurt) ดังที่มีชื่อปรากฏในบันทึกของมหาวิทยาลัยเมื่อปี ค.ศ. 1419 ซึ่งเป็นปีเดียวกับบิดาของเขาเสียชีวิต
หลังจากนั้น ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของกูเตนเบิร์กอีกเลย กระทั่งพบจดหมายของเขา เมื่อเดือนมีคม ค.ศ. 1434 ว่าเขาพักแรมอยู่ที่สตาสบูร์ก (Strasbourg) ทำงานเป็นลูกจ้าในร้านตัดกระจก เขาประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และอักษรโลหะ 26 ชิ้นที่มีขนาดเท่ากันได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ค.ศ. 1448 กูเตนเบิร์กเดินทางกลับเมืองไมนซ์ เพื่อยืมเงินญาติและเพื่อนมาลงทุนทำโรงพิมพ์ สุดท้ายเพื่อนชื่อโยฮันน์ ฟัสต์ (Johann Fust) ให้ยืมเงิน 800 กิลเดอร์ (Gilder)
ค.ศ. 1455 เครื่องพิมพ์กูเตนเบิร์กพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิลออกมาราว 800 เล่ม เป็นที่รู้จักกันในชื่อ’ไบเบิ้ลของกูเตนเบิร์ก’ (The Gutenburg Bible) จากผลงานครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งจากสังฆราชเมืองไมนซ์ให้เป็นมหาดเล็ก และได้รับเงินบำนาญอีกด้วย
ต่อมาปี ค.ศ. 1475 วิลเลียม แคกซ์ตัน (William Caxton) ช่างพิมพ์ชาวอังกฤษ ได้พัฒนาเครื่องพิมพ์เพื่อตีพิมพ์หนังสือ Recuyell of the Histoyes of Troye นับเป็นหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกของโลก
  ผลกระทบต่อสังคมปัจจุบัน
        แท่นพิมพ์ Gutenberg  ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของการเกิดหนังสือเลยก็ว่าได้ เพราะ โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg) ได้เริ่มการคิดค้นแท่นพิมพ์ขึ้นเพื่อจัดทำตัวอักษรและจะจัดทำเป็นหนังสือต่อไป และ โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg) ก็ได้จัดทำคัมภีร์เล่มแรกของโลกขึ้นจากการใช้แท่นพิมพ์นี้ จึงทำให้ยุคปัจจุบันมีหนังสือมากมายเกิดขึ้นไว้เพื่อศึกษาต่อไป  และแท่นพิมพ์ Gutenberg   ก็ได้มีการพัฒนาแท่นพิมพ์รุ่นใหม่ ๆ ขึ้น ในปัจจุบัน และ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีหนังสือมากมายหลากหลายรูปแบบให้คนในปัจจุบันได้ซื้อหาหนังสือต่าง ๆ มาอ่านและหาความรู้กันต่อไป ทั้งหมดนี้เกิดจากการคิดค้นแท่นพิมพ์ของ  โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg)  ทั้งนั้นเพราะถ้าหาก โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg) ไม่คิดค้นเครื่องพิมพ์ตัวหนังสือขึ้นมาอาจจะทำให้ปัจจุบันการพิมพ์เป็นสิ่งที่ยากก็เป็นได้


วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตเด็กใหม่


              ชีวิตเด็กใหม่ ผู้เขียนได้เขียนขึ้นเพื่อเล่าประสบการณ์และการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของน้องใหม่หรือที่ใครๆเรียกว่า เฟรชชี่ ซึ่งเรียงความเรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้พบเจอมากับตัวเองโดยผ่านเรียงความเรื่องนี้
ดิฉันเป็นเด็กนักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและมีความต้องการที่จะใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนเด็กนักเรียนคนอื่น และเมื่อดิฉันได้ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้วนั้นดิฉันก็ได้พบว่า การเปลี่ยนจากนักเรียนมาเป็นนักศึกษานั้นมันไม่ง่ายเลย พราะการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความเป็นอิสระในการเรียน และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วงแรกๆดิฉันอาจจะยังปรับตัวไม่ทัน ไม่ว่าจะเรื่องเวลาของการเรียน และการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆซึ่งดิฉันต้องแบ่งเวลาระหว่างการเรียนกับการทำกิจกรรมให้มันลงตัวที่สุด ซึ่งกิจกรรมต่างๆที่ดิฉันได้เข้าร่วมนั้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัย กิจกรรมของคณะ กิจกรรมต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่สำหรับดิฉันและมันอาจจะทำให้ดิฉันหลงระเริงไปกับมันได้มากเลยทีเดียว และสิ่งใหม่ๆเหล่านี้มันทำให้ฉันได้รู้จักรุ่นพี่ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ และ ได้รู้ถึงพิธีการต่างๆที่รุ่นพี่ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องมีความรักใคร่กลมเกลียวละเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งบ้างครั้งกิจกรรมเหล่านี้มันจะทำให้ฉันเหนื่อยบ้าง เบื่อบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มแล้วกับการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นเพราะถ้าหากดิฉันมีปัญหาในเรื่องการเรียนหรือไม่เข้าใจในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรมก็จะมีรุ่นพี่ให้คำปรึกษาดิฉันได้เช่นกัน ส่วนในเรื่องการเรียนก็เช่นกันดิฉันก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนแบบใหม่ เพราะการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้นมันไม่เหมือนกับตอนเรียนมัธยมเลยแม้แต่น้อย และการเรียนในระดับมหาวิทาลัยนั้นอาจารย์ส่วนใหญ่จะสอนให้เราจดตามกระดานเองหรือไม่ก็จดจากคำอธิบายจากที่อาจารย์สอนซึ่งบางวิชาอาจจะไม่มีหนังสือเรียน ฉะนั้นฉันต้องจดเองทั้งหมด ซึ่งบางครั้งดิฉันจดทันบ้างไม่ทันบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง และบางครั้งเมื่อมีเวลาว่างดิฉันกับเพื่อนก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กันเพื่อที่จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมห้องได้ด้วยเช่นกัน

การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยและการเป็นเด็กใหม่สำหรับดิฉันนั้นไม่ง่ายเลยแต่ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด เพราะไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนดิฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ ดิฉันคิดว่าไม่มีอะไรยากไปเกินกว่าความตั้งใจของคนเราหรอกถ้าเรามีความตั้งใจและมีความมุ่งมั่นที่จะทำมัน และหลังจากนี้ไปดิฉันจะใช้ชีวิตในแบบเด็กใหม่ให้คุ้มค่าที่สุดและทำให้ประสบความสำเร็จเช่นกัน!!!!!!!!!!